การที่โลกถูกห่อหุ้มด้วยก๊าซเรือนกระจกอันเป็นองค์ประกอบของบรรยากาศโลก ซึ่งก๊าซเหล่านี้ดูดคลื่นรังสีความร้อนไว้ในเวลากลางวัน แล้วแผ่รังสีความร้อนออกมาในเวลากลางคืน ทำให้อุณหภูมิในบรรยากาศโลกไม่เปลี่ยนแปลงอย่างทันทีทันใด ถ้าไม่มีก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ อุณหภูมิโลกในตอนกลางวันจะร้อนจัดส่วนกลางคืนจะหนาวจัด ปรากฎการณ์ก๊าซเรือนกระจกจะทำให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นเนื่องจาก แสงอาทิตย์ ในความยาวคลื่นอินฟาเรดที่สะท้อนกลับถูกดูดกลืนโดยโมเลกุลของ ไอน้ำ มีเทน ไนตรัสออกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ และ คลอโรฟลูออโรคาร์บอน ภายในบรรยากาศจึงทำให้โมเลกุลเหล่านี้มีพลังงานสูงขึ้น จึงส่งผลให้อุณภูมิในชั้นบรรยากาศสูงขึ้นตามไปด้วย โดยก๊าซต่างๆ เหล่านี้สามารถทำให้เกิดปรากฎการณ์เรือนกระจกได้มากถึง 57% ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากการกระทำของมนุษย์ เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล กิจกรรมทางอุตสาหกรรม เป็นต้น
ชั้นบรรยากาศของโลกจะประกอบด้วย โอโซนไอน้ำและก๊าซชนิดต่างๆดังที่กล่าวมาเบื้องต้นจะทำหน้าที่กรองรังสีคลื่นสั้นบางชนิดให้ผ่านมาตกกระทบบนพื้นผิวโลก ซึ่งรังสีคลื่นสั้นที่ตกกระทบกับพื้นโลกบางส่วนจะถูกดูดกลืนไว้ที่พื้นดิน หรือพื้นน้ำและบางส่วนจะถูกสะท้อนกลับออกไปยังนอกชั้นบรรยากาศ หลังจากนั้นจะเกิดการคายพลังงานออกมาในรูปของรังสีคลื่นยาว(อินฟาเรด) ซึ่งรังสีดังกล่าวจะแผ่กระจายสู่ชั้นบรรยากาศและกระจายออกไปยังนอกชั้นบรรยากาศเพียงส่วนหนึ่ง อีกส่วนชั้นบรรยากาศจะดูดกลืนเอาไว้และคายพลังงานความร้อนออกมา ชั้นบรรยากาศของโลกเปรียบเหมือนกระจกที่คอยควบคุมอุณหภูมิและวัฎจักรต่างๆให้ดำเนินไปอย่างสมดุล แต่ด้วยปรากฎการณ์เรือนกระจกที่เกิดขึ้นทำให้ปัจจุบันชั้นบรรยากาศของโลกมีการดูดซับปริมาณก๊าซบางชนิดมากเกินไปซึ่งก๊าซเหล่านี้จะมีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถดูดกลืนรังสีอินฟาเรดได้ดี ก๊าซเหล่านี้จึงดูดกลืนรังสีอินฟาเรดที่ผิวโลกคายออกสู่ชั้นบรรยากาศเอาไว้ จากนั้นจะเกิดการคายความร้อนที่สะสมอยู่ที่พื้นผิวโลกและชั้นบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลให้พื้นผิวโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นตามไปด้วย
🌡 โดยคาดว่าอีกประมาณ 100 ปีข้างหน้า โลกจะมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น 1 – 5 องศาเซลเซียส
ซึ่งผลกระทบที่เกิดจากปรากฎการณ์เรือนกระจกเราคงได้เห็นกันตามสื่อโทรทัศน์ต่าง ๆ ไปจนถึงรายการสารคดีที่พาไปสำรวจภูเขาน้ำแข็งบริเวณขั้วโลก ที่ปัจจุบันแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่กำลังทยอยแตกออกมาเป็นส่วน ๆ ซึ่งการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกนี่เองที่ทำให้ปริมาณของน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นด้วย ซึ่งนั่นอาจไม่ทำให้คุณรู้สึกว่าเป็นปัญหาอะไรใหญ่มากนัก แต่ลองคิดดูว่าเมื่อระดับน้ำทะเลสูงขึ้น บวกกับฝนที่ตกเป็นประจำทุกปี น้ำจากแม่น้ำลำคลองที่ปกติจะไหลลงสู่ทะเลจะไม่สามารถหาที่ระบายน้ำได้เช่นเดิม แล้วสุดท้ายก็จะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม เนื่องจากน้ำในทะเลหนุน สิ่งนั้นยังเป็นเรื่องเล็กเมื่อเทียบกับปริมาณแผ่นดินที่จะค่อย ๆ จมน้ำและหายไปจากแผนที่โลกทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นผลกระทบจากปรากฎการณ์เรือนกระจกทั้งสิ้น
นอกจากนี้แล้วผลของเจ้าปรากฎการณ์เรือนกระจกยังส่งผลโดยตรงกับหมีขาวขั้ว โลก ที่พอเมื่อแผ่นน้ำแข็งเริ่มลดน้อยลง พื้นที่อยู่อาศัยของพวกมันก็ค่อย ๆ หายลงไปด้วย และร้ายแรงที่สุดมันอาจสูญพันธุ์ไปจากโลกของเราตลอดกาล ซึ่งต้นเหตุของปรากฎการณ์เรือนกระจกที่ว่าเกิดจากฝีมือมนุษย์นั้น สาเหตุเกิดจากหลายสิ่งที่เราทำกันอยู่ทุกวันนี้ อย่างเช่น การใช้เครื่องปรับอากาศแน่นอนว่าหากเราใช้เครื่องปรับอากาศกันเครื่องสองเครื่องคงไม่ได้ทำให้เกิดปรากฎการณ์เรือนกระจกขึ้นมาได้แต่ทั่วโลกมีเครื่องปรับอากาศรวมกันกี่เครื่อง? ไหนจะควันเสียที่เกิดจากรถยนต์อีก แม้ว่าปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีมากมายที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อลดผลกระทบจากปรากฎการณ์เรือนกระจกนี้ แต่ยังมีคนหมู่มากที่ไม่สามารถเข้าถึงหรือไม่รู้เรื่องราวเหล่านี้ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ปรากฎการณ์เรือนกระจกมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นได้โดยปัญหาดังกล่าวนี้ไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่งหรือรัฐบาลในบางประเทศจะทำเองได้ แต่ทุกคนบนโลกนี้จะต้องช่วยกัน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตระหนักถึงปัญหาปรากฎการณ์เรือนกระจก มาลองเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เข้ากับธรรมชาติมากขึ้น เพราะถ้าเริ่มจากตัวเราก่อนย่อมส่งผลต่อคนรอบข้างเราและสามารถขยายผลสู่ทุกส่วนในสังคม และโลกของเราไปได้เรื่อย ๆ
อ้างอิง : ienergyguru.com